วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พระคริสต์ "พระเยซูเจ้า"



"พระเยซูทรงสิ้นประชนม์บนไม้กางเขน"





พระเยซูผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า ได้รับการมอบอำนาจจากพระบิดา ให้ลงมาบังเกิดเป็น

มนุษย์ ที่มีเลือด มีเนื้อ มีหัวใจ มีความรู้สึก มีอารมณ์ มีความเจ็บปวด เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ

แต่พระองค์ก็ปราศจากบาป และมิได้ทรงถือว่าการเทียบเท่าพระเจ้า เป็นสิ่งที่ต้องยึดถือไว้

การรับมอบอำนาจ ก็เสมือนกับ ผู้มอบอำนาจนั้นเป็นผู้กระทำเอง

ดังนั้น พระเยซูจึงทรงสภาพความเป็นมนุษย์ และ พระเจ้าเองด้วย.. ให้ลงมาปฏิบัติงานราช

กิจให้สำเร็จ เสมือนพระเจ้าเป็นผู้กระทำเอง ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์



การที่พระเยซู ทรงสภาพความเป็นมนุษย์ 100 % รับความทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด

พระองค์มีสิทธิที่ร้องเรียกหาพระเจ้า ซึ่งเป็นพระบิดา

ในพระคัมภีร์ ไม่มีช่วงเวลาใดเลย ที่พระบิดา ทรงทอดทิ้งพระเยซู นอกจากที่บนกางเขน

ไม่เพียงแต่พระเยซูเท่านั้นที่ทนทุกข์ทรมาน แต่พระบิดาก็ใจแทบจะขาดเช่นกัน

เพื่อให้แผนงานของพระองค์สำเร็จเสร็จสิ้น เป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญกว่า สิ่งอื่นใด

พระบิดา ถึงขนาดต้องเบือนพระพักตร์ของพระองค์ไป (ทอดทิ้งช่วงขณะหนึ่ง) เพื่อเห็นแก่

เราทั้งหลาย จะได้รับความรอด



หากพระเยซู ไม่ทรงเชื่อฟังพระบิดา อะไรจะเกิดขึ้นกับโลก + เรา?

ทั้งหมดนี้ พระเยซู + พระบิดา ทำงานร่วมกัน เป็นหนึ่ง และไม่ขัดแย้ง เพื่อเรา

ผู้รับมอบอำนาจ กระทำกิจอันใด ให้ถือเสมือนว่า ผู้มอบอำนาจนั้นเป็นผู้กระทำเองทั้งสิ้น

ดังนั้น ในความเป็นหนึ่งเดียวกัน นี้เอง พระเยซูจึงทรงเป็นพระเจ้า

ถ้าเรายังรับพยานหลักฐานของมนุษย์ พยานหลักฐานของพระเจ้าก็ยิ่งใหญ่กว่าเพราะว่า

พยานหลักฐานของพระเจ้านั้น คื อพระองค์ได้ทรงเป็นพยานอ้างถึงพระบุตรของพระองค์

ผู้ที่เชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ก็มีพยานอยู่ในตัว ผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้า ก็ได้กระทำให้

พระองค์เป็นผู้ที่ตรัสมุสา ....พยานหลักฐานคือ...พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ให้เรา ...ผู้

ที่มีพระบุตร ก็มีชีวิต ผู้ที่ไม่มีพระบุตร ก็ไม่มีชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น